
สารพิษจากเชื้อรา: ความท้าทายที่สัตวแพทย์ต้องใส่ใจในระบบการผลิตสัตว์
ในระบบการผลิตสัตว์สมัยใหม่ การจัดการด้านโภชนาการและสุขภาพสัตว์มีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิภาพการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ เช่น สุกร โค และสัตว์ปีก ปัญหาหนึ่งที่อาจแฝงอยู่ในอาหารสัตว์อย่างเงียบงันคือ สารพิษจากเชื้อรา (Mycotoxins) ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ประสิทธิภาพการเจริญเติบโต ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบสืบพันธุ์ โดยไม่แสดงอาการเด่นชัด ทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก
สารพิษจากเชื้อราคืออะไร?
สารพิษจากเชื้อรา(Mycotoxins) เป็นเมทตาบอไลต์ทุติยภูมิ( secondary metabolite) ที่ผลิตโดยเชื้อรา เช่น , Fusarium และ Penicillium ซึ่งมักปนเปื้อนในวัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง รำข้าว และผลพลอยได้จากพืชผลทางการเกษตร ตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวและรวมถึงขั้นตอนการเก็บรักษา การสะสมของสารพิษเหล่านี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น ความชื้น อุณหภูมิ และระยะเวลาในการจัดเก็บ

กลุ่มของสารพิษจากเชื้อราที่พบบ่อยในสัตว์
1. Aflatoxins – พบในข้าวโพด ถั่วลิสง เป็นต้น มีกลุ่มอวัยวะเป้าหมายที่สำคัญคือ ตับ สัตว์ที่ไวต่อสารพิษนี้มาก ได้แก่ สัตว์ปีก โดยเฉพาะเป็ด ลูกสุกร และลูกโค ส่งผลให้เกิดภาวะตับอักเสบ ภูมิคุ้มกันลดลง และอาจนำไปสู่มะเร็งตับ
2. Zearalenone (ZEA) – มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ เช่น ในสุกร ภาวะเป็นสัดผิดปกติ อวัยวะเพศบวมแดง ในสัตว์ที่ตั้งท้องอาจมีภาวะแท้งได้ และภาวะเป็นหมันชั่วคราว
3. Fumonisins – พบมากในข้าวโพด ข้าวฟ่าง ส่งผลต่อระบบประสาท โดยเฉพาะในม้า (ก่อให้เกิดโรค leukoencephalomalacia) และในสุกรอาจทำให้เกิดโรคปอดบวมน้ำ
4. Ochratoxins – มีพิษต่อ ไต และ ตับ พบในหลายชนิดอาหารสัตว์ ส่งผลต่อการทำงานของไตและลดประสิทธิภาพการใช้อาหาร
5. Trichothecenes (เช่น T-2 toxin และ DON) – มีฤทธิ์กดระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้สัตว์อ่อนแอ และเกิดปัญหาทางเดินอาหาร เช่น เบื่ออาหาร อาเจียน และท้องเสีย
ผลกระทบทางคลินิกและทางเศรษฐกิจ
สัตว์ที่ได้รับสารพิษจากเชื้อราอาจไม่แสดงอาการเฉียบพลัน แต่จะมีผลระยะยาว เช่น
– อัตราการเติบโตลดลง
– ความสามารถในการสืบพันธุ์ต่ำ
– ภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้การติดเชื้อแทรกซ้อนง่าย
– ประสิทธิภาพการใช้วัคซีนลดลง
– เพิ่มความสูญเสียทางเศรษฐกิจในระดับฟาร์มและอุตสาหกรรม
การวินิจฉัย
– การตรวจทางห้องปฏิบัติการ – ตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารพิษในวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยใช้วิธีเช่น ELISA, HPLC, และ LCMSMS

การควบคุม
– การใช้สารดูดซับ (Mycotoxin binders) – เช่น bentonite, zeolite, clay หรือ activated charcoal ใส่ในอาหารสัตว์เพื่อลดการดูดซึมสารพิษ
– การจัดการวัตถุดิบอย่างถูกต้อง – ลดความชื้น ควบคุมการจัดเก็บ และหมุนเวียนวัตถุดิบอย่างสม่ำเสมอ
– การสังเกตอาการและบันทึกผลผลิต – ช่วยให้สามารถตรวจพบปัญหาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
บทบาทของสัตวแพทย์
สัตวแพทย์ควรมีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวังปัญหา mycotoxins ในฟาร์ม โดยร่วมมือกับผู้จัดการฟาร์ม นักโภชนาการสัตว์ และห้องปฏิบัติการ เพื่อประเมินความเสี่ยง วินิจฉัยโรค วางแผนการจัดการอาหาร และติดตามผลผลิต เพื่อให้สามารถลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างยั่งยืน
สรุป
สารพิษจากเชื้อราเป็นปัญหาที่มองไม่เห็น แต่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบการผลิตสัตว์ หากสัตวแพทย์สามารถประเมินความเสี่ยง ตรวจสอบ และวางแผนการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถช่วยลดความเสียหาย และเสริมสร้างความมั่นคงของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ได้อย่างยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
– Zain, M. E. (2011). Impact of mycotoxins on humans and animals. Journal of Saudi Chemical Society, 15(2), 129–144.
– Diaz, D. E. (Ed.). (2005). The Mycotoxin Blue Book. Nottingham University Press.
– Richard, J. L. (2007). Some major mycotoxins and their mycotoxicoses—An overview. International Journal of Food Microbiology, 119(1-2), 3–10.
– Bryden, W. L. (2012). Mycotoxin contamination of the feed supply chain: Implications for animal productivity and feed security. Animal Feed Science and Technology, 173(1-2), 134–158.
นายปกรณ์ จาละ
นักวิทยาศาสตร์ (ชำนาญการ)
ประจำห้องปฏิบัติการตรวจหาสารพิษจากเชื้อรา
เปิดให้บริการทุกวัน
จันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.30-16.30 น.
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ติดต่อ 081-9868018
E-mail : kuvetdiag@ku.th
Line OA : @kvdc.ku

